จากสาเหตุที่กล่าวมา

ดูเหมือนว่า อาการที่แสดง ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่า คือ การติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV ( Human Papilloma Virus ) เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเกิดจากเชื้อ HPV ถึง 80% และ อีก 20% เกิดจากเชื้อและสาเหตุอื่นๆ

อาการตกขาวมีกลิ่น คันช่องคลอด จนลุกลามไปสู่ ความเสี่ยงการเป็นมะเร็งปากมดลูก นั้น ถ้าจะอธิบายให้ผู้หญิงอย่างเราๆ เห็นภาพ คือ เกิดจากภาวะอักเสบซ้ำๆ บริเวณเนื้อเยื่อปากมดลูก จนทำให้ เนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลง ในทิศทางที่ไม่มีทีท่าจะหยุดการอักเสบ และถ้าไม่รีบทำการรักษา โดยปล่อยไว้ จนมีการขยายขนาด จนมีหนอง มีกลิ่น มีเลือด ไหลออกมาที่ปากช่องคลอด ในที่สุด ก็กลายเป็น มะเร็งปากมดลูก และนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินเงินทองที่มากเพื่อรักษาและอาจถึงขั้น เสียชีวิตได้ นั้นเอง

จะเห็นได้ว่า จากแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่

(เชื่อว่า คุณผู้หญิงหลายๆคน ก็หาข้อมูลมาจากหลายที่เช่นกัน) มะเร็งปากมดลูก พบกับผู้หญิงอายุ 30-55 ปีขึ้นไป ก็เพราะว่า มะเร็งปากมดลูด ที่เกิดจากติดเชื้อ HPV ( Human Papilloma Virus ) จะแสดงอาการที่รุนแรงขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป 5-10 ปี

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่ช่วงอายุ 20-30 ปี เมื่อได้รับเชื้อ HPV ( Human Papilloma Virus ) ที่ติดจากการมีเพศสัมพันธ์ พบเพียงอาการเบื้องต้น คือ ตกขาว มีกลิ่น คันช่องคลอด เท่านั้น เพราะช่วงของการรับเชื้อ 1-5 ปีแรก วัยเรา อยู่ในช่วงอายุ 20-30 ปี ซึ่งร่างกายเรายังแข็งแรง และยังมีภูมิคุ้มกันโรค ยังสามารถที่จะ กำจัดเชื้อ ฆ่าเชื้อ ได้อยู่ และถ้าเมื่อไหร่ ที่เราเริ่มอายุมากขึ้น ( ช่วงอายุ 30-55 ปี ) ร่างกายเราเริ่มอ่อนแอลง ภูมิคุ้มกันโรคเริ่มต่ำ หากเชื้อยังอยู่ หรือได้รับเชื้อใหม่ ก็จะแสดงอาการที่รุนแรงขึ้นและเข้าไป ทำลาย เนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก ทำให้เกิดการอักเสบซ้ำๆ จนนำไปสู่การเป็น มะเร็งปากมดลูกได้คะ

เห็นไหมล่ะคะ จากอาการเล็กๆน้อย ที่ผู้หญิงอย่างเราปล่อยปละละเลย มองข้ามจนนำไปสู่การสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น จึงอยากให้ผู้หญิงด้วยกัน ตระหนักถึงการใส่ใจดูแลสุขภาพให้มากขึ้น ตั้งแต่เริ่มมีอาการค่ะ

อย่างไรก็ดี ต้องขอขอบคุณ ข้อมูลจาก สถาบันมะเร็งแห่งชาติและแหล่งความรู้ มะเร็งปากมดลูก มากๆ ค่ะ